วันพุธที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2553

โคตรจะมาร์ค เลยหว่ะ ภาคสอง: จากโลกไซเบอร์ สู่แนวทางปฏิบัติ


เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2552 ผู้เขียนได้ สนทนากับนักรบไซเบอร์ คนเสื้อแดงท่านหนึ่ง ถึงพัฒนาการทางด้านศัพท์แสลง ที่เห็นใช้กันอยู่ในโลกอินเตอร์เน็ต และ เมื่อ สถานการณ์เปลี่ยนไป เวลาผ่านไป ทำให้ศัพท์แสลง ที่ได้ระบุคำจำกัดความนั้นไม่เป็นที่นิยมในโลกแห่งความเป็นจริง เพราะดูเหมือนว่า ผู้เขียนได้ใช้ คำ ที่เป็นเสนียดปาก ของผู้พูดมาสื่อสาร ในรูปย่อ เพื่อจำกัดความ คำว่า กาก หรือ กากเดน, คำว่า เกรียน และ คำว่า เสี่ยว ให้รวมอยู่ในคำ คำเดียว คือ มาร์ค

ซึ่งท่านผู้อ่าน สามารถ ทำความเข้าใจ ได้จากบทความในเวปบล๊อคเก่าของผู้เขียน ซึ่งได้ทำสำเนามาให้อ่านอยู่ในบทความนี้

ผู้เขียนกำลังทำความเข้าใจว่า หาก นักการเมืองที่ผู้เขียนกล่าวถึง มีพฤติกรรมเช่นเดิมในระดับที่มากขึ้น จนพี่น้องประชาชน มั่นใจว่า นักการเมืองคนนั้น เลวได้ใจจริงๆ สุดๆจริงๆ อาจจะเริ่มนำ ศัพท์แสลงนั้นกลับมาใช้อีกครั้ง ผู้เขียนจำเป็นจะต้อง เน้นย้ำถึงบริบท และ พฤติกรรม ที่หนักหนาสาหัสขึ้น ของนักการเมืองคนนี้

พฤติกรรมเพิ่มเติม ของคำว่า ไอ้กาก หรือ กากเดน คือ

การที่นักการเมืองคนนั้น หมดทางเถียงแล้วว่า การยุบสภาไม่ใช่ทางออกของสังคมไทย (ตามทรรศนะ ของเขาเอง) จึงยินดี ที่จะยุบสภา แต่มีเงื่อนไขเวลา เพื่อให้ตนเอง ได้ผ่านงบประมาณ เพื่อเตรียมโกงเสียก่อน ยื้อเวลาเพื่อเตรียมโยกย้ายข้าราชการเพื่อให้ตัวเองได้เปรียบในการเลือกตั้งเสียก่อน

พฤติกรรมเพิ่มเติมของคำว่า เกรียน หรือ ไอ้เกรียน คือ

การที่ไปเถียงกับคนอื่นออกทีวี ว่า สิ่งที่ตัวเองได้พูดในอดีตนั้น มันคนละเวลา คนละ สถานการณ์ กับเหตุการณ์ในปัจจุบัน ซึ่งทำให้คำพูดของตนเองในอดีต ไม่สามารถใช้เป็นบรรทัดฐานให้ตัวเองได้ ทั้งๆที่ ประชาชนโดยทั่วไป เขาเห็นว่า นักการเมืองคนนี้ กลืนน้ำลายตัวเองผ่านสื่อ เช่น การที่ไปสอน ให้ นายก สมัคร ยุบสภา บอกว่า ประชาชนจะ หนึ่งคน หรือ แสนคน นายก ก็ต้องฟัง หรือจะเป็น อีกสถานการณ์หนึ่ง คือ ตอนเป็นหัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน พูดเรื่องการทำ ประชามติ ว่า"ไม่ต้องทำประชามติ มีแต่จะทำให้ความขัดแย้งลุกลามออกไป ให้ยุบสภาคืนอำนาจประชาชนสถานเดียว เป็นกระบวนการอารยะ" นี่คือพฤติกรรมเกรียน

พฤติกรรม เสี่ยว หรือ ไอ้เสี่ยว คือ

ตัวเองโหวตให้เป็นมติพรรคไปแล้วว่าจะไม่แก้รัฐธรรมนูญแม้แต่มาตราเดียว แต่ตอนนี้อยากจะแก้รัฐธรรมนูญขึ้นมาทันทีทันใด (ใช้รัฐธรรมนูญ เป็นข้ออ้าง ซื้อเวลา) ไม่กลัวประชาชนเค้า งง เลยว่า ต่อมรัฐธรรมนูญ มาแตก อะไรเอาตอนนี้

นี่คือสามพฤติกรรมเดิมๆ แต่ถูกกระทำซ้ำต่างกรรมต่างวาระ หลายต่อหลายครั้ง จนประชาชนต้องตอกย้ำกันอีกครั้ง เพื่อให้ด่าง่าย สั้นๆ ได้ใจความ โดยไม่ต้องด่า ไอ้กาก ไอ้เกรียน ไอ้เสี่ยว ต่อๆกัน เพราะ มันยาว ด่า ว่า ไอ้มาร์ค คำเดียว ก็ครอบคลุม คำศัพท์แสลงทั้งสาม อยู่ในคำเดียว

ผู้เขียนคาดว่า ไอ้มาร์ค แทน ไอ้กาก ไอ้เกรียน ไอ้เสี่ยว ก็ คงจะดังยาก เหมือนเดิม เพราะ คนพูดอาจจะรู้สึกไม่เป็นมงคลกับปาก

ปล. อ่าน บทความเก่า เมื่อ ก.ค. ปี 52 เพื่อความเข้าใจเพิ่มเติม

โคตรจะมาร์ค เลยหว่ะ

โคตรจะมาร์ค เลยหว่ะ เป็นศัพท์แสลงของวัยรุ่นที่กำลังจะเป็นที่ นิยม ในสังคมไทย นีโอ ลองสำรวจกระแสวัยรุ่น ที่เคยใช้ ศัพท์นี้ ในพันทิป และ ยังคงใช้กันอยู่ ในเกมส์ออนไลน์ บางเกมส์ และจะเป็นที่นิยมแน่นอน หาก รัฐบาลชุดนี้ ยังคงประพฤติตน เช่นที่เป็นอยู่ จนชาวบ้านไม่พอใจ กระทบไปถึงวัยรุ่นในสังคมที่เริ่มตื่นตัวในเรื่องของการเมืองกันมากขึ้น

อยากจะเล่าที่มาของศัพท์ แสลง คำว่า “โคตรมาร์คเลยหว่ะ” หรือ “นายมาร์คมากๆ” หรือ “ไอ้มาร์คเอ๊ย”หรือ “แกมัน มาร์ค ได้ใจ เลยหว่ะ” ศัพท์แสลงเหล่านี้ มีที่มาจากวัยรุ่นหัวใส ที่ต้องการด่าว่า เพื่อนๆ ของตนเอง ว่า ไอ้กาก ไอ้เกรียน ไอ้เสี่ยว แต่ถ้าด่าทีละคำมันไม่สะใจวัยรุ่น พวกวัยรุ่นจึง นำนิยามของคำสามคำ บางส่วน มานิยาม เป็น คำศัพท์ แสลง แล้วใช้ คำว่า “มาร์ค” เป็นสัญลักษณ์ ของคำว่า กาก เกรียน เสี่ยว

นีโอ ลองสัมภาษณ์ นักรบไซเบอร์ ท่านนึง ที่ใช้ ฉายา ว่า รักสาวเสื้อแดง และได้คำอธิบายดังต่อไปนี้ นะครับ

จากศัพท์ คำว่า กาก ก็เอานิยามบางส่วนของ คำ คือ พฤติกรรม กากเดนสังคม เช่นทำอะไรที่เป็นโทษแก่ สังคม หรือ พฤติกรรมที่ขัดกับ หลักจริยะธรรมในสังคม หรือ ขัดกับธรรมชาติที่เป็นที่นิยมของคนส่วนใหญ่

เกรียน ก็เอานิยามบางส่วนของ คำ คือ พฤติกรรม ของคนไม่ใส่ใจในหลัก ทฤษฏีและเหตุผล พฤติกรรมการ แถ ข้างๆคูๆ ทั้งๆที่ฝ่ายตรงข้ามเค้ามีหลักฐานชัดเจน หรือ ทำอะไรโดยไม่ใส่ ใจ สักแต่ว่า ทำให้ตัวเองดูดีไว้ก่อน

เสี่ยว ก็เอานิยามบางส่วนของ คำ คือ พฤติกรรมที่ทำอะไรเชยๆ ชาวบ้านเค้าไปถึงไหนต่อไหนกันแล้ว ตัวเองเพิ่งจะมาเห่อ

แล้วที่ วัยรุ่น เค้ารวมตัวพร้อมใจกัน ใช้ คำว่า “มาร์ค” แทนคำว่า “กาก เกรียน เสี่ยว” นี่ก็เป็นเพราะ พฤติกรรมของ นักการเมืองคนนึง ที่เห็นแก่ตัว และ ไม่ยอมจะเสียให้ใคร ประกอบกับ พฤติกรรม ที่ปรากฏให้เห็นตามพื้นที่ สื่อ จึงทำให้ศัพท์เหล่านี้ รวมกันออกมาอย่าง ลงตัว

ตัวอย่างเช่นพฤติกรรม ของ กาก เช่น การไปร่วมมือ กับ คนเนรคุณ เพื่อประโยชน์ของพรรคพวก หรือ การเก็บ คนปากเสีย ผู้ต้องหาก่อการร้าย ไว้เป็นรัฐมนตรี หรือ การ สนับสนุน แต่งตั้ง คนปากระดับ เทพ(ไท) ไว้เป็นกระบอกเสียง คอย สร้างความขัดแย้งในสังคม

พฤติกรรม ของ เกรียน เช่น การกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการขึ้นภาษีสรรพสามิตน้ำมัน แล้วไม่ยอมรับว่าตัวเองพลาด หรือ ให้สัมภาษณ์ ว่า ไข้หวัดใหญ่ 2009 ให้นอนอยู่บ้านเดี๋ยวก็หาย ทั้งๆที่มีคนตายกันเยอะ หรือ ไปอุ้ม คนที่โกหกผ่านทีวี ด้วยเหตุผลว่า อาจจะเกินมาตรฐาน กฏเหล็ก เก้า ข้อที่ตัวเองกำหนดไว้

พฤติกรรม ของ เสี่ยว เช่น ทำอะไรเชยๆ แบบ ขนคน 5,000 คน ไปคุ้มกันตัวเองที่ บุรีรัมย์ หรือ ที่ สวนกระแส ว่าภ้ายุบสภาฯ ตอนนี้แล้วคนจะเลือกตัวเอง เหมือนเดิม หรือ ที่ชอบเหมาเอาว่า เป็นนายก ของคนไทยทั้งประเทศ แต่ไม่มีใครยอมรับ

จากความหมาย ของ ศัพท์ และ พฤติกรรมของนักการเมืองที่เกิดขึ้นให้เห็น ผสมผสานกันอย่าง ลงตัวจนได้คำ ด่า เป็นศัพท์ แสลงใหม่ของสังคมไทยและมันก็เป็นอะไร ที่มีเหตุผล มากกว่า การตั้งชื่อ ตัวเงินตัวทอง ให้สื่อไปเล่นข่าว จนคนที่ ชื่อซ้ำกับ ตัวเงินตัวทอง ต้องเสียใจ ไม่รู้กี่คน

แต่ศัพท์ แสลง คำนี้ มันระบุ ชัดเจน ถึง คนๆนึง เป็นที่รู้กันในสังคม คนอื่นไม่เดือนร้อนแน่นอนต่อไปนี้

ใครด่า นีโอ ว่า “ไอ้มาร์คเอ๊ย” หรือ “โคตรมาร์คเลยหว่ะ” หรือ “นายมาร์คมากๆ” หรือ “แกมัน มาร์ค ได้ใจ เลยหว่ะ”

นีโอ จะรู้สึกไม่ดี ทันที .....

http://the-red-ally.blogspot.com/2009/07/blog-post_15.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น