วันจันทร์ที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2553

วิกฤติศรัทธรา วิกฤติการเมือง และ ทางออก จากอีกหนึ่งมุมมอง



ความร้อนแรงของสถานการณ์การเมืองในปัจจุบัน ได้ก้าวข้ามความขัดแย้งระหว่าง อำมาตย์ และ ทักษิณ ไปอย่างเป็นธรรมชาติ เมื่อรัฐบาลผู้ซึ่งได้รับความสนับสนุนในทุกๆด้านจากอำมาตย์ ไม่ได้แสดงความจริงใจต่อสังคมไทยในการแก้ปัญหาความขัดแย้งต่างๆ อีกทั้งยัง ไม่มีความพยายามบังคับใช้กฎหมายอย่างเป็นธรรม กับประชาชนทุกคนให้เท่าเทียมกัน ในขณะที่คนเสื้อแดงนั้นไม่ได้เรียกร้องทวงเงินคืนให้ทักษิณ แต่เป็นการเรียกร้องให้เกิดความเปลี่ยนแปลงตามกรอบรัฐธรรมนูญ เรียกร้องให้ นายกรัฐมนตรีใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญ ตัดสินใจยุบสภาฯ คืนอำนาจให้ประชาชน ซึ่งเป็นข้อเรียกร้องที่ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ ทั้งฝ่ายผู้เรียกร้องและผู้ครองอำนาจ ที่ต้องปฏิบัติตามคำเรียกร้อง

วิกฤติการเมือง อันเกิดมาจาก กลุ่มคนซึ่งรวมตัวกันเรียกร้องผลประโยชน์ส่วนตน พยายามบีบบังคับให้ นายกรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนส่วนใหญ่ลงจากตำแหน่ง คนกลุ่มนี้มีแกนนำที่ หลอกใช้ประชาชน ให้กระทำการหลากหลายทั้งที่ขัดต่อกฎหมายบ้านเมือง อีกทั้งยังร่วมมือกับพรรคการเมืองคู่แข่งของรัฐบาลในสมัยนั้น ดำเนินการทั้งถูกและผิดกฎหมายให้เอื้ออำนวยต่อการใช้กำลังทหาร โดยการสั่งการของอำมาตย์ เข้ายึดอำนาจการบริหารราชการแผ่นดินจาก นายกรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้ง แล้วจึงใช้อำนาจทหาร ฉีกรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน หลังจากนั้นการเขียนรัฐธรรมนูญ โดยตัวแทนอำมาตย์ได้สร้างความปั่นป่วนในระบอบนิติรัฐ จนนำไปสู่การกำจัดคู่แข่งทางการเมือง




ส่วนวิกฤติศรัทธรา นั้น ได้เกิดขึ้นสืบเนื่องมาจาก รัฐธรรมนูญ ฉบับอำมาตย์ การยัดเยียด องค์กร อิสระต่างๆให้เป็นมือเป็นเท้าของอำมาตย์ในการสืบทอดอำนาจ และ กำจัดศัตรูทางการเมือง จนนำไปสู่การบังคับใช้กฎหมายอำมาตย์อย่างไม่เป็นธรรม และได้ตั้งรัฐบาลหุ่นเชิดขึ้นมาในค่ายทหารในที่สุด วิกฤติศรัทธรานั้น ได้เกิดขยายวงขึ้นเหมือนระลอกคลื่นหลังจากที่รัฐบาลหุ่นเชิดอำมาตย์ ยังคงบังคับใช้กฎหมายอย่างไร้หลักยุติธรรม มีการแทรกแทรงกระบวนการยุติธรรม มีการแทรกแทรงระบบข้าราชการ ระบบสื่อสารมวลชน ในขณะที่การบริหารราชการแผ่นดินก็ดำเนินการไปโดยทุจริต ไม่ว่าจะเป็นโครงการต่างๆ จากทั้งเงินภาษีในปัจจุบัน และ กู้มาจากภาษีของประชาชนในอนาคต เพื่อนำมาทุจริตผ่านโครงการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโครงการเพื่อประชาชน โครงการภาครัฐ โครงการด้านการทหาร รวมไปถึงโครงการลับ มากมาย การบริหารราชการแผ่นดินโดยรัฐบาลหุ่นเชิดก็เป็นไปอย่างไร้สมรรถภาพ ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม
ปัจจัยทางด้านเศรษฐกิจที่ส่งผลต่อวิกฤติศรัทธรา เช่น เกษตรกรรมที่ตกต่ำ ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมที่ถูกปล่อยปะละเลย การค้าระหว่างประเทศ การลงทุนภาคอุตสาหกรรมที่จะสืบเนื่องไปสู่การสร้างงาน ด้านสังคม เช่น การปล่อยให้มีบ่อนหวยใต้ดินเกิดขึ้นมากมาย ยาเสพติดไม่ได้รับการดูแลจริงจัง ปัญหาสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และ ยังมีปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม ไม่วาจะเป็นการบุกรุกป่าสงวนเพื่อสร้างสนามกอล์ฟ สร้างบ้านบนที่รัฐ โดยนายทุน และ ผู้มีอำนาจที่สนับสนุนรัฐบาลหุ่นเชิดของอำมาตย์

จากวิกฤติการเมืองนำไปสู่วิกฤติศรัทธราในวงกว้าง นำไปสู่ความขัดแย้ง นำไปสู่ประชาชนมากมายที่รับไม่ได้ในกระบวนการไร้มาตรฐานของรัฐบาลหุ่นเชิดของอำมาตย์

และวิกฤติศรัทธราที่เกิดขึ้นนี้ยัง แสดงให้สังคมไทยได้เห็นถึงการตอบสนองจากผู้ครองอำนาจรัฐ ที่ตอบโต้โดยการกดหัวประชาชน ใส่ร้ายป้ายสี ดูถูกเหยียดหยามประชาชน หนักหน่วงและกว้างขวางอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์

รัฐบาลหุ่นเชิดนำเอาสถาบันเบื้องสูง ที่ผู้คนเคารพบูชา มาเป็นเครื่องมือทำลายความชอบธรรมของประชาชนอย่างต่อเนื่อง จนในที่สุดประชาชนทนไม่ไหว จึงต้องออกมาเรียกร้อง ทวงคืนอำนาจอธิปไตย ขอใช้สิทธิตัดสินทิศทางของประเทศชาติและสังคมอีกครั้ง

รัฐบาลหุ่นเชิดของอำมาตย์ ไม่ใส่ใจ ไม่แสดงความจริงใจ แต่กลับใช้อำนาจที่มีอยู่ สร้างภาพให้เกิดความเกลียดชัง ขัดแย้งระหว่างประชาชน สร้างความขัดแย้งเพื่อที่ตนและพวกพ้องจะได้ครองอำนาจอยู่ต่อไป

ทางออกที่ดีที่สุด ที่ประชาชนสามารถทำได้เพื่อให้เกิดความสงบสุขขึ้นในบ้านเมือง คือการร่วมรณรงค์อย่างสันติ อหิงสา เพื่อร่วมกันกดดันให้รัฐบาลคืนอำนาจอธิปไตยกลับสู่สังคม คืนสิทธิในการตัดสินทิศทางของประเทศชาติให้แก่สังคม แล้วจึงแก้กฎหมายรัฐธรรมนูญ โดยใช้ตัวแทนจากประชาชน เพื่อแก้ไข กฎหมายสูงสุดของแผ่นดิน ให้ สังคมไทยกลับเข้าสู่สภาวะ ปกติสุข

รัฐบาลหุ่นเชิดควรเร่งตัดสินใจในทันที ให้

ยุบสภาฯ คืนอำนาจอธิปไตยให้ปวงชนชาวไทย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น