วันอาทิตย์ที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2553

เสียงลั่นกลองศึก ดังลั่นสนั่นฟ้า อำมาตยา สั่งมาร์คยุบสภาฯ เสียที

หลังจากที่ ไข่มุกดำ วีระ ได้ประกาศขีดเส้นตายให้ มาร์ค ยุบสภาภายในเที่ยงวันจันทร์ที่ 15 มีนาคม (วันนี้) เห็นได้ชัดว่าความหน้าด้านหน้าทนของมาร์คนั้น มีความหนากว่านักการเมืองที่มาร์ค เคยพูดออกจากปากเมื่อยามที่ตนเองเป็นฝ่ายค้านหลายล้านเท่านัก ผู้ชุมนุมจึงคาดการณ์ว่า อย่างไรเสีย มาร์ค คงจะไม่ยุบสภาง่ายๆ และก็เป็นที่น่าเชื่อว่า ถึงแม้นว่าตามตำแหน่งแล้ว นายกรัฐมนตรี มีอำนาจยุบสภาฯ แต่ในกรณีของมาร์คนั้น เป็นนายกที่ไม่สามารถใช้อำนาจ ยุบสภาฯได้เอง แต่ต้องรอรับความยินยอม อนุญาต จาก ป๋าเสียก่อน จึงจะยุบได้ เพราะถึงแม้นจะอยากยุบแค่ไหน ถ้าป๋าไม่ยอม ก็ ยุบไม่ได้

นปช. แดงทั้งแผ่นดินจึงจะเดินทางจากราชดำเนิน ไปที่ รบ. 11 สถานที่บริหารราชการชั่วคราวของนายกรัฐมนตรี สมุนอำมาตย์ หลายคนอาจจะมองว่า การเดินทางไปรอรับฟังคำตอบเรื่องการยุบสภาฯ นั้น คงจะเป็นกิจกรรมที่กดดันรัฐบาลได้ไม่มาก แต่ถ้าเรามองในภาพรวมแล้ว การเคลื่อนพลครั้งนี้ เป็นการกดดัน รัฐบาลอำมาตย์ที่จะสร้างยุทธศาสตร์ได้ดีทีเดียว

การเคลื่อนพลเรือนล้านนั้น เป็นการแสดงให้โลกทั้งโลกได้เห็นว่า คนจำนวนมากไม่พอใจ และไม่ยินดีที่จะปล่อยให้รัฐบาลชุดปัจจุบัน บริหารราชการภายใต้การสั่งการของอำมาตย์ต่อไป

การเคลื่อนพลนั้นเป็นการรณรงค์ เพื่อเพิ่มแนวร่วมตามหลักสันติวิธี ประกอบกับการที่ รัฐนั้นมีช่องทางในการสื่อสารมากกว่าคนเสื้อแดง ดังนั้นการเคลื่อนพลรณรงค์ จึงจะช่วยดึงพื้นที่จากสื่อรัฐและสื่อกระแสหลักให้เพิ่มขึ้นได้บ้าง หากเจ้าของสื่อยังคงมีความยุติธรรมอยู่บ้าง

คลิปเสียงสั่งการให้ทหารตำรวจ สร้างสถานการณ์เมื่อเดือน เมษายน ปีที่แล้ว ได้ช่วยเพิ่มน้ำหนักให้การชุมนุมของคนเสื้อแดงเป็นอย่างมาก ตราบใดที่ผู้ถูกกล่าวหา หรือ มาร์ค ยังไม่ได้ฟ้องร้องผู้เผยแพร่ ให้มีการพิสูจน์หลักฐาน อย่างเป็นกลาง ซึ่งผู้เขียนคาดว่า มาร์คคงจะไม่ฟ้องใครเพราะคลิปนั้น มาร์คไม่ยอมให้เฉลิมเปิดในสภาฯ

และเรื่องการกระทำผิดกฎหมาย ของกลุ่มคนที่สนับสนุนอำมาตย์นั้น ถูกเผยแพร่ออกมาอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงการเดินทางรณรงค์ รอบกรุงเทพฯนั้น ถึงแม้นว่ารถจะติด แต่พี่น้องประชาชนชาว กทม. ก็ คงจะสนับสนุนการชุมนุมเป็นอย่างดี แต่ก็อาจจะมีบ้างที่รัฐบาล และ อำมาตย์ ส่งลิ่วล้อมาป่วนการชุมนุม และ พยายามสร้างสถานการณ์เป็นระยะ

ตั้งแต่รัฐบาลชุดนี้เข้าสู่อำนาจ การโกงกิน คอรัปชั่น จำนวนมากได้เกิดขึ้นแต่ด้วยความที่รัฐบาลใช้อำนาจเบ็ดเสร็จควบคุมสื่อ ทั้งสื่อรัฐและสื่อกระแสหลัก ทำให้เรื่องราวการโกงกิน คอรัปชั่น ทั้งจากนักการเมืองฝั่งรัฐบาล จากนายทุนสมุนอำมาตย์ ลิ่วล้ออำมาตย์ และ แม้แต่ตัวอำมาตย์เอง ไม่ได้ถูกเผยแพร่ ผ่านสื่อรัฐ และสื่อกระแสหลัก ตามสมควร แต่เป็นการเผยแพร่ไปในทำนองที่มองข้ามรายละเอียด แต่สื่อเหล่านั้นนำไปเชื่อมโยงให้เป็นเพียง การกล่าวหากันทางการเมืองทั่วไป

การลั่นกลองศึกเคลื่อนพล ไปไล่ นายกรัฐมนตรี เป็นหนทางที่จะทำให้บรรดาประชาชนที่ยังไม่ทราบความจริงได้ เริ่มติดตามความเคลื่อนไหวของข่าวสารที่เป็นกลาง และ ก็ จะเป็นอีกแรงผลักดันให้ สื่อกระแสหลัก เริ่มเจาะลึกในเรื่องข้อกล่าวหา ที่คนเสื้อแดงให้เหตุผลว่า ทำไม จึงไม่ยินดีและไม่ยินยอมให้รัฐบาล ชุดปัจจุบันบริหารราชการแผ่นดินต่อไป

และการเรียกร้องของคนเสื้อแดงนั้น ไม่ได้ เรียกร้องในสิ่งที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรมอันดีงาม แต่เป็นการเรียกร้องอยู่บนพื้นฐานของหลักการประชาธิปไตย ภายใต้แนวทางสันติวิธี

หลักการนั้นตั้งอยู่บนพื้นฐานที่ว่า รัฐบาลชุดปัจจุบัน ไม่ชอบธรรมที่จะได้บริหารราชการแผ่นดินต่อไป มีการโกงกิน คอรัปชั่น ให้ประโยชน์พวกพ้อง บังคับใช้กฎหมายโดยไม่มีบรรทัดฐานระหว่างพวกพ้อง และ ผู้อื่น อีกทั้งยังได้มีการใช้อำนาจที่ขัดต่อกฎหมายบ้านเมือง ครอบงำองค์กรอิสระ ไปจนถึงศาลอาญาแผนกผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง

การลั่นกลองศึกเคลื่อนพลตามแนวทางสันติวิธีครั้งนี้ จึงเป็นการกดดัน รัฐบาลอำมาตย์ และเป็นการเรียกร้อง รณรงค์ ให้สื่อกระแสหลัก และประชาชนที่ไม่ทราบความจริง ได้รับรู้และเข้าร่วมกับ พ่อแม่พี่น้องประชาชนผู้รักประชาธิปไตย กดดันและเรียกร้องอำนาจอธิปไตยให้กลับคืนสู่ประชาชน ให้ประชาชนตัดสินใจอีกครั้งว่าจะนำพาสังคมไทยและประเทศชาติไปในทิศทางใด

ผู้เขียนจึงขอเตือนใจ ให้ข้อคิด และ ขอร่วมกดดัน อำมาตย์ ตามแนวทางสันติวิธี ให้ออกคำสั่งตามที่ตนถนัด สั่งให้มาร์ค ยุบสภาฯ เสียที

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น