วันพุธที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2553

อุดมการณ์ของเขา เราคือ ชนชั้นล่าง

เขาอยากให้เราสุภาพ เขาอยากให้เรายิ้ม เขาอยากให้พวกเราภูมิใจที่ได้ใช้ชีวิตบนแผ่นดินที่พวกเขาเล่าว่าเป็นดินแดนแห่งเสรีภาพ ดินแดนแห่งประชาธิปไตยที่มีพวกเขาเป็นผู้ปกครองภายใต้พระเจ้าอยู่หัว
เขาบอกว่าเขาฉลาด เขาบอกว่าเขาคิดได้ดีกว่าเรา เขาบอกว่าเข้าใจพวกเรา ว่าพวกเราไม่สามารถร่วมตัดสินใจทิศทางของสังคมและประเทศชาติได้ดีเท่าที่พวกเขาตัดสินใจ บอยคอตการเลือกตั้ง ยึดสนามบิน ทำรัฐประหาร ฉีกรัฐธรรมนูญ ละเมิดอำนาจสถิตยุติธรรม กู้มาโกง

เขาบอกว่าเขาพร้อมที่จะตัดสินใจทุกอย่างแทนประชาชนส่วนใหญ่โดยไม่ต้องให้พวกเราสนับสนุน เขาบอกว่าพวกเราคิดไม่เป็น เราโดนจูงจมูก เขาว่าเราชอบใช้ความรุนแรง เขาบอกว่าประเทศชาติจะอยู่รอดได้ต้องเชื่อฟังเขาเท่านั้น

เขาไม่ชอบที่เราคัดค้าน เขาว่าเราไร้หัวคิด เขาว่าเรารับอามิตรสินจ้าง เขาว่าเราโกง ว่าเราเป็นทาสของเงิน เขาว่าเราไม่ปรารถนาดีต่อประเทศชาติ เขาว่าเราไม่จงรักภักดีเขาว่าเราต้องการล้มจ้าว

เราบอกว่าเราเป็นสุภาพชน เรายิ้มให้คนที่ยิ้มให้เราด้วยความจริงใจ เราจะดีใจและภูมิใจที่ได้ใช้ชีวิตอยู่บนแผ่นดินนี้ ก็ต่อเมื่อเราได้รู้สึกถึง สิทธิเสรีภาพ และ ประชาธิปไตยที่แท้จริง ไม่ใช่อย่างที่พวกเขาสร้างภาพกันอยู่ในปัจจุบัน

เราบอกว่าถึงแม้นว่าเราจะไม่ฉลาด และ คิดชั่วๆอย่างพวกเขาไม่ได้ แต่เราก็มีความจริงใจ และก็พร้อมที่จะร่วมตัดสินใจทิศทางของสังคมและประเทศชาติ ตามหน้าที่และสิทธิ ที่เราพึงมีภายใต้ระบอบประชาธิปไตย ซึ่งอำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย

เราบอกว่า พวกเขาไม่พร้อมที่จะตัดสินใจแทนพวกเรา พวกเขาใจแคบจงใจดูถูกเรา พวกเขาไม่กระทำการที่เอื้ออำนวยต่อการพัฒนาประชาธิปไตย ในขณะที่ทำลายระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศชาติให้กลายไปเป็นสังคมทาสแห่งทุนอำมาตย์ และ ชนชั้น

เราบอกว่าถ้าเราเชื่อฟังพวกเขา ลูกหลานเราจะกลายเป็นทาส เราบอกว่าเราไม่ชอบความรุนแรงแต่พวกเขาพยายามกดหัวเรา และไม่เคารพในการตัดสินใจของคนส่วนใหญ่ เราบอกว่าพวกเขาเองที่ดึงจ้าวลงมาเป็นเครื่องมือทางการเมืองเพื่อคอยกดหัวพวกเรา เราบอกว่าเราไม่เชื่อฟังเขาเพราะเขาเอาแต่โกงและกดขี่

เราอยากจะบอกว่า ไอ้มาร์ค เอ็งไม่ใช่สุภาพบุรุษ และ อีตุ๊ดเฒ่า เอ็งก็ไม่ใช่คนดี เราอยากจะบอกว่า คปค. คตส. ปปช. คตง. กกต. ปชป. มันลูกสมุน อีตุ๊ดเฒ่า เฝ้าแต่หาผลประโยชน์ใส่ตัว แล้วกดขี่สิทธิ และ เกียรติ ของพี่น้องปวงประชาจนเสื่อมโทรมอย่างเสื่อมทรามอย่างที่ไม่เคยมีปรากฏมาก่อนในประวัติศาสตร์ชาติไทย

วันที่ สิบสี่ มีนาคม พุทธศักราช สองพันห้าร้อยห้าสิบสาม เราจะไปรวมตัวกันในเมืองหลวง เพื่อให้มนุษย์ชาติได้เห็นว่า ถึงเวลาแล้ว ที่ผู้ร้ายของแผ่นดิน ควรออกไปเสียที

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น