วันจันทร์ที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

มาร์ค ขอ เลือกตั้ง 14 พ.ย. 53 จริงใจ หรือ ลวงหลอก


ข้อเสนอที่จะให้มีการเลือกตั้งใน วันที่ 14 พฤศจิกายน นั้น หมายความว่า รัฐบาล จะต้องยุบสภา ก่อนวันที่ 14 อย่างเร็ว ไม่เกิน 45 ถึง 60 วัน นั่นคือจะมีการยุบสภา วันที่ 14 กันยายน ไม่เกิน ต้นเดือน ตุลาคม ซึ่ง ไม่ได้แตกต่างจากการ เจรจา ระหว่าง มาร์ค กับแกนนำ นปช. ในคราวที่แล้ว ก็คือ มาร์คเสนอยุบสภาปลายปี

ถึงแม้นว่า มาร์ค จะเปลี่ยน ข้อเรียกร้องของตนเอง ก็ไม่ได้เป็นการ ลด หรือ ยอม หรือ แสดงความจริงใจ แต่อย่างใด

ท่านผู้อ่านคงจะสังเกตได้ว่า เหตุผลที่ฟังไม่ขึ้นของ มาร์ค ทั้งสามข้อนั้นทำให้รัฐบาลต้องเสียรังวัดไปพอสมควร ดังนั้นคราวนี้ จึงต้อเปลี่ยนข้อเสนอใหม่ ให้ประชาชนฟังแล้ว ดูดี ไม่มีผลประโยชน์แอบแฝง

เราลองมาทบทวน ข้อแม้ สามข้อแรก ที่ มาร์ค ขอมา ครับ

ข้อแรก ขอผ่านงบประมาณปีต่อไปก่อน ข้อที่สอง ขอแก้ไขรัฐธรรมนูญ และ ข้อสุดท้าย ขอสร้างสถานการณ์

ทั้งสามข้อฟังไม่ขึ้น เพราะ ประชาชนเชื่อว่า หากปล่อยให้ผ่านงบประมาณไป ก็ จะลงเอย คล้ายๆกับความประพฤติ กู้มาโกง เหมือนที่ผ่านมา ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น เป็นเพียงการแก้ไขสถานการณ์ของรัฐบาลเอง ที่ถูกกดดันโดยพรรคร่วมรัฐบาล และ พยายามหนีความผิดจากการยุบพรรค ซึ่งชัดเจนขึ้นทุกวัน ส่วนการสร้างสถานการณ์นั้น มาร์ค อ้างว่า เพื่อให้เกิดความสมานฉันท์ มีการเลือกตั้งที่ยุติธรรม แต่แท้จริงแล้ว แฝงไปด้วยขั้นตอนที่เอาเปรียบคู่แข่ง เพราะจะเป็นการดึงเวลา เพื่อโยกย้ายข้าราชการประจำ แต่งตั้ง ผบ. ทบ. ให้ ตนเองและพวกพ้อง มีโอกาส ที่จะชนะการเลือกตั้งที่ตนเองควบคุม มากขึ้น

เมื่อข้อเสนอสามข้อ ใช้เหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น ประชาชนไม่ยอมรับ ดังนั้น มาร์ค ต้องกลบเกลื่อน ข้อเรียกร้องเหล่านั้น โดยการเพิ่มข้อเรียกร้อง อีก ห้าข้อ ที่เพิ่งจะประกาศไปเมื่อวานนี้ คือ

(1)ส่งเสริมสถาบันกษัตริย์, (2) ปฏิรูปประเทศ, (3) ปฏิรูปสื่อ, (4) ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เหตุการณ์ความรุนแรงต่างกรรมต่างวาระ และ (5) แก้รัฐธรรมนูญ และ นิรโทษกรรม คดีการเมือง

ข้อเรียกร้องใหม่ ห้าข้อ รวมกับ ข้อเรียกร้องเดิม สามข้อ เป็น แปดข้อ มาร์ค ขอแลกกับการจัดการเลือกตั้ง ในวันที่ 14 พฤศจิกายน

ข้อเสนอเรื่องการ ส่งเสริมสถาบันกษัตริย์นั้น เป็นเรื่องที่ประชาชนทุกฝ่ายต่างต้องการ ดังนั้นจึงเป็นการพูดเพื่อให้ดูดีเท่านั้น เพราะมีเพียง รัฐบาลเอง เท่านั้น ที่ใช้สถาบันเป็นเครื่องมือ ในการทำร้ายประชาชนผู้ชุมนุม หากรัฐบาลเลิกกล่าวหาใส่ร้าย ประชาชน ว่าเป็นขบวนการล้มเจ้าแล้ว การส่งเสริมสถาบันกษัตริย์ ก็ จะเข้าสู่ภาวะปกติ

ข้อเสนอเรื่องการปฏิรูปประเทศนั้น แน่นอนว่าจะต้องผ่านงบประมาณ ให้ได้ เพราะไม่ว่าจะเป็น สวัสดิการต่างๆ รายได้ของประชาชน อาชีพ และ ความมั่นคง นั้น ต้องใช้งบประมาณทั้งสิ้น ดังนั้นข้อสองจึง เต็มไปด้วยวาระซ่อนเร้น และเป็นแผน การหาเสียงตามแนวทางอภิมหาประชานิยม เหมือนเคย

ข้อเสนอเรื่องการปฏิรูปสื่อนั้น รัฐบาลไม่ได้มีความจริงใจแต่อย่างไร สื่อทางเลือกของผู้ชุมนุมยังคงถูกปิดกั้น และ สื่อรัฐ อำนาจรัฐ ยังคงถูกใช้ให้นำเสนอด้านเดียว กดดันสื่อกระแสหลัก สร้างข่าวกลบข่าว ไม่ให้ประชาชนที่มีความคิดแตกต่างจากรัฐบาลได้มีพื้นที่ผ่านสื่อ และก็มีเพียงรัฐบาล เท่านั้นที่สร้างความขัดแย้งผ่านสื่อรัฐ และ สื่อกระแสหลัก

ข้อเสนอเรื่อง การตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เหตุการณ์ความรุนแรงต่างกรรมต่างวาระ นั้น รัฐบาลได้เป็นผู้ปิดโอกาส ที่ประชาชนนำเสนอผ่านพรรคฝ่ายค้านมาตลอด ตอนนี้ รัฐบาลทำลายหลักฐานไปเยอะแล้ว โดยไม่มีการ ชันสูตร โดยเฉพาะ ศพทหาร ที่รีบเผาไปแล้ว

ข้อเสนอสุดท้าย คือ แก้รัฐธรรมนูญ ที่แฝงด้วยการนิรโทษกรรมตนเองและ พวกพ้อง ถึงแม้ว่า มาร์ค จะอ้างว่าการดำเนินคดีต่างๆจะยังคงดำเนินต่อไป ก็เป็นคดีอาญาที่ไม่อาจนิรโทษกรรมเท่านั้น การแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยอ้างว่า ทำเพื่อประชาชนนั้น เป็นเพียงข้ออ้าง เพราะ มาร์ค ภายใต้ ปชป. ไม่เคยมีจุดยืนเห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่รัฐธรรมนูญฉบับนี้ถูกใช้งานมา

ข้อเสนอใหม่ทั้งห้าข้อนี้ แฝงไปด้วยสามข้อเสนอเก่า ไม่มีอะไรแตกต่าง เพียงแค่ พูดให้ดูดีขึ้นเท่านั้น อย่างไรก็ตาม มาร์ค ได้มีความชัดเจน ในเรื่องของวันเลือกตั้ง ซึ่งไม่มีอะไรสามารถรับประกันได้ ว่าถึงเวลาแล้วจะปฏิบัติตามสัญญาหรือไม่

ดังนั้นผู้เขียนจึงขอเสนอให้ แกนนำ นปช. แดงทั้งแผ่นดิน อย่าได้รีบรับข้อเสนอของมาร์ค แกนนำสมควร เสนอให้ รัฐประกาศ ให้มีการเลือกตั้งในวันที่ 14 สิงหาคม ซึ่งจะเป็นการพบกันครึ่งทาง และ ประชาชนผู้ชุมนุมก็จะได้สบายใจว่า รัฐบาลจะไม่คิดแผนชั่ว ซ้อนแผนหลอกลวง ที่ป่าวประกาศออกมา

หากมาร์ค ยอมรับข้อเสนอให้มีการเลือกตั้งในวันที่ 14 สิงหาคม นั่นหมายความว่า รัฐบาลจะต้องประกาศยุบสภา ระหว่างวันที่ 14 มิถุนายน ไม่เกิน ต้นเดือน กรกฎาคม โดยมีข้อแม้ว่า นปช. จะชุมนุมต่อไป จนกว่า จะมีการประกาศยุบสภา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น