วันพุธที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2553

เผด็จการรัฐสภาฯ ประชาชนไร้ที่พึ่ง จึงต้องยุบสภาทันที




ช๊าดดด...เจน นี่แหละรัฐ ที่โดนกำทาง ......

ขอบอกว่าไม่ใช่ เพลงรัก “ชัดเจน” ของพี่ ติ๊กชิโร่ แต่เป็นความชัดเจนในความไร้ที่พึ่งของประชาชน ตามหลักประชาธิปไตยภายใต้ระบอบรัฐสภาฯ เมื่อมีความเสียหายต่อชีวิต และ ทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนผู้บริสุทธิ์ถึง 25 ศพ และ กว่า 800 คนถูกกระทำให้เกิดความเจ็บปวดทางร่างกาย และอีกไม่ต่ำกว่าล้านคน ที่ต้องถูกกระทบให้เจ็บปวดทางจิตใจ นำมาซึ่งความคับแค้น ขัดข้อง เกลียดชังร้าวลึกไปในวงกว้างของสังคม

เมื่อ รัฐสภาไทย ปฏิเสธที่จะ ตั้งคณะกรรมาธิการสืบสวน สอบสวน ตรวจสอบ ให้ได้มาซึ่งสาเหตุและผู้ที่สมควรรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ ฆาตกรรม 25 ศพ ทำร้ายร่างกายกว่า 800 คดี และ ทำร้ายจิตใจกว่า ล้าน กรณี

รัฐสภาไทย เมื่อวานนี้ (วันที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2553) ไม่รับญัตติให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญสอบข้อเท็จจริง 10 เมษายน 53 ด้วยคะแนน 235 ต่อ 137 งดออกเสียง 3 ไม่ลงคะแนน 11 เสียง

เมื่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ปฏิเสธที่จะให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชน เพื่อสร้างความกระจ่างใจให้โลกทั้งโลกได้รับรู้ ก็อาจจะมีเหตุผลที่สำคัญ และต้องสำคัญมากกว่าความตาย ของพี่น้องประชาชน จึงได้ปฏิเสธที่จะตั้ง กมธ. ในเรื่องนี้

แต่พฤติกรรมอันไร้เหตุผลมันฟ้องให้โลกได้รับรู้ มันชี้ให้เห็นชัดเจนว่า เมื่อผู้นำรัฐบาล หลีกเลี่ยงที่จะตอบคำถามเกี่ยวกับความเสียหายที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 10 เมษายน ที่ผ่านมา และได้ปฏิเสธที่จะใช้ช่องทางการตรวจสอบผ่าน สภาผู้แทนราษฎร จึงเป็นความชัดเจนที่ชี้ให้เห็นว่า รัฐสภาไทย กำลังเดินหน้าเข้าสู่ กระบวนการเป็นเผด็จการรัฐสภา

เมื่อความสูญเสียที่เกิดขึ้น มีเพียงการรายงานโดยให้น้ำหนักกว่า ร้อยละ เก้าสิบห้า ผ่านสื่อกระแสหลัก ว่าเจ้าหน้าที่ทหารเป็นผู้เสียหายรายใหญ่ถึง 4 ศพ และ บาดเจ็บถึง 60 กว่าราย พร้อมเจาะลึกไปถึง ญาติพี่น้องของบรรดาทหาร ในขณะที่ อีก 21 ศพ และ บาดเจ็บ 800 กว่าราย เป็นเพียงการรายงานตัวเลข เท่านั้น

ประชาชนหวังพึ่งสภาผู้แทนราษฎร ไม่ได้อีกต่อไป สภาผู้แทนราษฎรไม่ยินยอมให้เป็นที่พึ่งอีกต่อไป

สภาผู้แทนราษฎรจึง สมควรหมดวาระลงไป

นายกรัฐมนตรีสมควรยุบสภา ทันที

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น